มฟล. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาความร่วมมือด้านการออกแบบเพื่อการรับมือและฟื้นตัวจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืนในเชียงราย

มฟล. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาความร่วมมือด้านการออกแบบเพื่อการรับมือและฟื้นตัวจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืนในเชียงราย ประจำปี 2568 (The RECODE Project: A Collaborative Design for Sustainable Disaster Recovery in Chiang Rai 2025)

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “The RECODE Project: A Collaborative Design for Sustainable Disaster Recovery in Chiang Rai 2025” ระหว่างวันที่ 1 – 5 กันยายน 2568 ณ ห้อง 507 อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี (E4) มฟล. และพื้นที่บ้านห้วยหินลาดใน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาต้นแบบการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติของเมืองสร้างสรรค์เชียงราย จำนวน 3 รูปแบบ และยกระดับให้สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาได้จริง พร้อมจัดทำคู่มือแนวทางการรับมือและฟื้นตัวจากภัยพิบัติ โดยมี ผศ. ดร.วิลาวัณย์ จำปาแก้ว รักษาการแทนผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มฟล. กล่าวต้อนรับ และนายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย (อพท.เชียงราย) กล่าวเปิดการประชุม

กิจกรรมตลอด 5 วัน ที่นักออกแบบจะได้เข้าร่วมประกอบด้วยการบรรยายเชิงวิชาการ การทำ Mapping ปัญหาภัยพิบัติ และการสำรวจพื้นที่จริงในบ้านห้วยหินลาดใน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมทั้งนักออกแบบ นักวิชาการ และชุมชน ได้ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมกับสภาพจริงของพื้นที่ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล ปัญหา และองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น นำไปสู่การระดมความคิดเห็นเพื่อสรุปปัญหา จัดทำร่างแผนการจัดการภัยพิบัติ และทดลองสถานการณ์เสมือนจริง (Role Play) เพื่อทดสอบโมเดลก่อนเสนอเป็นต้นแบบ

ทั้งนี้คณะผู้จัดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลการประชุมจะก่อให้เกิดต้นแบบการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่บูรณาการองค์ความรู้สมัยใหม่กับภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งจะถูกนำไปปรับใช้ในพื้นที่จริง พร้อมทั้งพัฒนาเป็นคู่มือแนวทางการรับมือและฟื้นตัวจากภัยพิบัติของจังหวัดเชียงราย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ และชุมชนท้องถิ่น

กิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่
• SDG 11: เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาต้นแบบจัดการภัยพิบัติที่สามารถใช้ได้จริง
• SDG 13: การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เน้นการออกแบบเพื่อการปรับตัวและฟื้นตัวจากภัยพิบัติ
• SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่นในการแก้ปัญหาร่วมกัน